สารประธานคณะกรรมการบริษัท
สภาวะอุตสาหกรรมกระเบื้องปูพื้นบุผนังสำหรับปี 2567 ยังถือว่าอยู่ใน
ระดับปานกลาง ประเทศไทยได้รัฐบาลชุดใหม่ และ มีนโยบายทาง
เศรษฐกิจใหม่ซึ่งย่อมมีความไม่แน่นอนหลายประการอันอาจส่งผลต่อ
การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม UMI ก็ยังสามารถต้านทาน
ความไม่แน่นอนต่าง ๆ และทำกำไรเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากปีก่อนหน้า
แม้ว่ายอดขายของบริษัทฯ จะลดลงร้อยละ 6.25 แต่ผลกำไรก็กลับเพิ่มขึ้น
ถึงร้อยละ 120.34
จากการปรับปรุงพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทำให้
บริษัทฯ สามารถเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นได้อย่างชัดเจน การเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่บริษัทฯ ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ การลดต้นทุนการผลิตได้ ร้อยละ 6.90 ก็ช่วยให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นได้กว่าเท่าตัว ดังนั้นในปี 2568
บริษัทฯ ก็หวังว่าจะสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตให้ได้เท่ากับหรือดีกว่าปี ที่ผ่านมาเพื่อผลกำไรที่มากขึ้น
แต่เพื่อความไม่ประมาทและมองโลกในแง่ดีจนเกินไป ก็ต้องคิดเผื่อถึงโอกาสที่ภาวะเศรษฐกิจอาจถดถอยด้วย
หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจปี 2568 อาจไม่สดใสนักจากปัจจัยลบหลายประการ เช่น ภาวะซบเซาของตลาดหลักทรัพย์
การปรับเพิ่มขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำ การลดการใช้จ่ายของผู้บริโภค และอื่น ๆ อีก
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม UMI จะพยายามมุ่งไปข้างหน้า ไม่ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร หากพิจารณา
ย้อนหลังไปดูผลประกอบการของบริษัทฯ ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าบางช่วงเวลาที่ยากลำบาก บริษัทฯ กลับสามารถดำเนินการ
ให้มีผลประกอบการที่ดีกว่าช่วงภาวะปกติเสียด้วยซ้ำนั้น อาจบ่งบอกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับบริษัทฯ ได้
ขอขอบพระคุณที่ร่วมลงทุนในกลุ่มบริษัท UMI
ร.อ. เศรณี เพ็ญชาติ
ประธานคณะกรรมการบริษัท